• Hotline: 087-984-2273

ขอบเขตเวลาที่ต้องระบุในการตั้งตารางเวลาของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้า

สำหรับเรื่องราวครั้งนี้เรามาทำความเข้าใจระบบจัดการเวลาในการตั้งตารางเวลาให้พนักงานกันบ้าง กว่าจะได้รายงานสรุปเวลาทำงาน ขาด ลา มาสายและโอที ลูกค้าจะต้องมีการตั้งกะการทำงานให้พนักงานก่อน เมื่อลูกค้าตั้งกะให้พนักงานเรียบร้อยแล้วโปรแกรมก็จะนำบันทึกเวลาที่ได้จากเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามาประมวลผลตามสูตรเวลาทำงานที่ถูกกำหนดไว้และสรุปออกมาเป็นรายงานรูปแบบต่างๆ เราสามารถเลือกดูรายงานได้หลายแบบ มีทั้งแบบง่ายๆ ไปจนถึงสรุปเวลาทำงาน ขาด ลา มาสาย โอที แต่การจะได้มาซึ่งรายงานนี้ลูกค้าจะต้องเข้าใจความสัมพันธ์ของขอบเขตเวลาในการตั้งตารางเวลาก่อนระบบจึงจะให้รายงานได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจความสัมพันธ์ของการตั้งเวลาในระบบของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามากขึ้นแอดมินอธิบายได้ดังนี้

การให้รายงานคำนวณเวลาสรุปเวลาทำงาน ขาด ลา มาสาย โอที ของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าจะต้องผ่านการตั้งค่า 3 ขั้นตอนคือ (1) ตั้งตารางเวลา (2) ตั้งกะการทำงาน (3) นำกะการทำงานไปกำหนดให้พนักงาน ซึ่งการทำงานของ 3 ขั้นตอนนี้มีความสัมพันธ์กันดังนี้ กะที่นำไปกำหนดให้พนักงานในข้อ 3 จะเป็นการนำข้อมูลการตั้งกะในข้อ 2 มาใช้งานและการตั้งกะในข้อ 2 จะนำข้อมูลเวลาทำงานในข้อ 1 มาเป็นเงื่อนไขในการคำนวณ ดังนั้นหัวใจหลักของการตั้งกะการทำงานให้พนักงานคือข้อ 1 การตั้งตารางเวลา หากลูกค้าตั้งตารางเวลาผิดจะทำให้การคำนวณเวลาทำงานของพนักงานผิดไปด้วย ในการตั้งตารางเวลาทำงานมีส่วนประกอบด้วยกัน 3 ส่วนคือ (1) เวลาทำงานจริง (2) เวลาที่ให้สายหรือออก่อนได้ (3)่ ช่วงเวลาที่กำหนดให้โปรแกรมนำข้อมูลบันทึกเวลาที่ได้จากเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามาประมวลผล ในมุมมองของแอดมินการตั้งค่าข้อ 3 ถือว่ายากที่สุด 

ความสัมพันธ์ของเวลาจะต้องกำหนดให้ถูกต้องเพื่อใช้ตั้งตารางเวลาในระบบของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าแอดมินอธิบายเพิ่มเติมได้ดังนี้
ข้อมูลส่วนที่ 1 : เวลาเข้างานออกงานจริง
1. ชื่อตารางเวลา : กำหนดได้เอง แต่ถ้าให้ง่ายแนะนำให้ใช้นำเวลาเข้าออกงานมาเป็นชื่อ เช่น เข้างาน 08.00 ออกงาน 17.00 ให้ตั้งชื่อตารางเวลาว่า 08.00-17.00 เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน
2. เวลาเข้างาน : เป็นเวลาที่กำหนดให้เข้างานจริง เช่น 08.00 
3. เวลาออกงาน : เป็นเวลาที่กำหนดให้เลิกงานจริง เช่น 17.00
ข้อมูลส่วนที่ 2 : เวลายืดหยุ่นที่หน่วยงานอนุญาตให้เลทหรือให้มาสายได้
4. ให้สายได้ : หากไม่อนุญาตให้สายใส่ 0 แต่ถ้าอนุญาตให้สายได้ให้ใส่จำนวนนาทีที่ให้สายได้ลงไป
5. ให้ออก่อนได้ : หากไม่อนุญาตให้ออกก่อนเวลาใส่ 0 แต่หากอนุญาตให้ออกก่อนเวลาได้ใส่เวลาลงไปได้เลย

อธิบายเพิ่มเติมได้คือ ข้อ 4 และข้อ 5 เป็นข้อกำหนดที่บอกว่าพนักงานสามารถเข้าเลทงานได้ไหม? หรือออกงานก่อนเวลาได้ไหม? เช่น หากเวลาเข้างานคือ 08.00 ไม่อนุญาตให้สาย หากพนักงานมาสแกนนิ้วหรือสแกนหน้าหลัง 08.00 โปรแกรมก็จะตีว่าสายทันที แต่หากบอกว่าสายได้ 15 นาที หากพนักงานสแกนหลัง 08.00 แต่ไม่เกิน 08.15 แสดงว่าไม่สาย โปรแกรมจะคิดเวลาสายให้หลัง 08.15 เป็นต้น และเช่นกันกับการออกก่อนเวลาหากกำหนดให้เลิกงาน 17.00 พนักงานสแกนออก่อนเวลาได้ไหม? 

เรื่องราวถัดไปเราจะมาเรียนรู้ความสัมพันธ์ของการกำหนดเวลาในข้อมูลส่วนที่ 3 กัน (ส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญเป็นตัวกำหนดหลักว่ารายงานคำนวณเวลาที่ได้ถูกต้องหรือไม่?)
www.charoentech.com

ระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียน lpr

2024-04-26 13:39:14

ไม้กั้นรถยนต์ อ่านป้ายทะเบียน มีให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่ละรุ่นหรือแต่ละยี่ห้อมีระบบการทำงานที่ไม่เหมือนกัน มีข้อดี มีข้อเสียที่ต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าทราบว่า ไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียน รุ่นไหนน่าสนใจ จุดเด่นของรุ่นนั้นๆ เป็นอย่างไร? แอดมินจึงขอหยิบเอาชุดไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียน gbm500 lpr มาอธิบายให้ได้ทราบกัน.. ไม้กั้นรถยนต์ zkteco bgm500 lpr เป็นการนำอุปกรณ์ของ zkteco มาทำงานร่วมกัน ซึ่งในชุดอุปกรณ์จะประกอบไปด้วย ระบบไม้กั้นรถยนต์

เครื่องสแกนควบคุมประตู

2024-04-25 21:14:42

เมื่อพูดถึงระบบควบคุมประตูเรามักนึกถึงการใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าหรือเครื่องทาบบัตรเพื่อสั่งเปิดประตู สแกนผ่านสามารถเปิดประตูได้ สแกนไม่ผ่านประตูไม่เปิดให้ แอดมินพบว่ามีเพียงลูกค้าไม่กี่รายที่ทราบว่าระบบควบคุมประตูประกอบไปด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง อุปกรณ์ชิ้นไหนจำเป็นอุปกรณ์ชิ้นไหนไม่จำเป็น และเพื่อให้ลูกค้าทราบถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบกัน

การจัดการทะเบียนรถในระบบอ่านป้ายทะเบียน

2024-04-24 21:17:20

ระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียนเป็นระบบที่เลือกการทำงานได้ 2 แบบคือ ทำงานเองแบบ stand alone (ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์) และแบบใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผล ลูกค้าที่มีสมาชิกน้อยกว่าความสามารถในการเก็บทะเบียนรถของระบบสามารถใช้งานแบบ stand alone ได้ เช่น กล้องอ่านป้ายทะเบียน zkteco รุ่น lprc300 รองรับ 1,000 ทะเบียน หากโครงการมีสมาชิกน้อยกว่า 1,000 ทะเบียน