บทความ

ฐานข้อมูลเครื่องสแกนลายนิ้วมือแบบออนไลน์หาย

บทความนี้แอดมินขออัพเดทคำถามต่อเนื่องที่ว่า หากฐานข้อมูลของโปรแกรมหายแล้วเราใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าในรูปแบบการดึงข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตหรือระบบออนไลน์เราจะทำอย่างไรถึงจะสามารถกลับมาเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าตามสาขาต่างๆ ได้อีกครั้ง เพราะเมื่อฐานข้อมูลของโปรแกรมหายไปก็เท่ากับว่าการตั้งค่าทั้งหมดที่เราทำในโปรแกรม premium time หายไปด้วย เราควรทำอย่างไรดี? แอดมินมีวิธีมาแนะนำ แต่ต้องออกตัวก่อนว่ามันง่ายที่จะป้องกันและยากสำหรับการไล่หาข้อมูลหากผู้ใช้งานไม่ได้เป็นผู้ดูแลระบบออนไลน์เอง 

การตั้งค่าให้โปรแกรม premium time กลับมาเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าผ่านระบบออนไลน์อีกครัั้งนั้นไม่ยาก หากเราทราบว่า host ddns ที่เราใช้อยู่ของแต่ละสาขานั้นชื่ออะไร? และ port การเชื่อมต่อใช้เลขอะไร? แต่หากเราไม่ทราบ ไม่เคยบันทึก ไม่เคยจดไว้ อันนี้เรื่องยากแน่นอน! เพราะระบบจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าตามสาขาได้ถ้าไม่ทราบ host ddns และพอร์ตการเชื่อมต่อที่เราใช้งานกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าเครื่องนั้นๆ 

แอดมินขอเริ่มต้นกันที่การป้องกันก่อน ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
1. เราสามารถแบคอัพฐานข้อมูลของโปรแกรม premium time ไว้ได้ เมื่อมีการตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว และเก็บฐานข้อมูลไว้ในที่ปลอดภัย ใน server ในฮาร์ดดิส หรือที่อื่นที่ให้เราสามารถหยิบนำกลับมาใช้ได้เมื่อฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่มีปัญหา หาย หรืออื่นๆ ซึ่งวิธีเก็บสำรองฐานข้อมูลทำได้ 2 วิธีคือ
1.1 สำรองผ่านโปรแกรม เพียงแค่เปิดโปรแกรม premium time ขึ้นมาและไปที่เมนูด้านซ้ายบน "ข้อมูล" และเลือกเมนูย่อย "สำรองข้อมูล" จากนั้นก็หาที่เก็บไฟล์สำรองข้อมูลก็เสร็จแล้ว
1.2 สำรองข้อมูลด้วยการ copy ฐานข้อมูลตรงๆ ให้เข้าไปที่ drive c > program file x86 > HIP Premium time > DB > pm_2014 (copy file นี้ออกมา pm_2014) ก็เสร็จสิ้นขั้นตอน

และหากต้องการนำฐานข้อมูลกลับไปใช้งานก็แค่ หากเลือกสำรองฐานข้อมูลด้วยวิธีตามข้อ 1.1 ให้ติดตั้งโปรแกรมใหม่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ให้นำฐานข้อมูลที่เราสำรองมาไปวางในคอมพิวเตอร์ drive C หรือ drive D ก็ได้ แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นมา จากนั้นให้เข้าไปที่เมนูด้านซ้าย "ตั้งค่าเลือกฐานข้อมูล" แล้วก็เลือก "ค้นหา" ให้ไปหาไฟล์ฐานข้อมูลที่เรานำมาวางในคอมพิวเตอร์ ชื่อไฟล์ bkpm_2014 จากนั้นก็ให้คลิ้กที่ "ทดสอบการเชื่อมต่อ" หากโปรแกรมมี pop up ว่า "can connect database" แสดงว่าเราใช้งานฐานข้อมูลนั้นได้ให้ตอบ ok ออกมาได้เลย... คำว่า can connect database แปลว่าสามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลได้นะ ไม่ใช่ con't ที่แปลว่าไม่ได้ ผู้ใช้หลายท่านมักเข้าใจผิดจุดนี้.. หากเลือกสำรองฐานข้อมูลตามวิธีที่ 1.2 เมื่อติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้วให้ copy file ฐานข้อมูลที่เราสำรองไว้ไปวางแทนที่ไฟล์ที่เราพึ่งติดตั้ง (วางแทนที่นะ) จากนั้นเราก็จะใช้งานฐานข้อมูลเดิมได้ทันที

2. ให้เราจดบันทึกชื่อ host ddns และ port การเชื่อมต่อไว้ เมื่อยามที่เราติดตั้งโปรแกรมใหม่หรือเมื่อเจอปัญหาเราก็จะยังคงมีระหัสและ code ในการเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าได้เสมอ

แต่สำหรับหน่วยงานที่จำไม่ได้ ไม่ได้บันทึก ไม่ได้สำรองฐานข้อมูลไว้ อันนี้วิธีแก้ไขมีเพียงวิธีเดียวคือต้องขอข้อมูลจากผู้จำหน่ายหรือผู้ที่ติดตั้งที่เป็นผู้ตั้งค่า host ddns ให้เรา เพราะไม่เช่นนั้นเราอาจต้องเริ่มต้นการ set host ddns ใหม่ เราจึงจะใช้งานผ่านระบบออนไลน์ได้อีกครั้ง
www.charoentech.com